Site icon socarts.net | ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต ทางผม แฟชั่น สุขภาพ แต่งบ้าน…

หาคำตอบ ปรุงหรืออุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟอันตรายไหม 

Using the microwave oven to heat food. Heating plastic container with broccoli and buckwheat in the microwave

ปัจจุบันต้องยอมรับว่า เตาไมโครเวฟ คือเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำครัวแทบทุกบ้าน เพราะใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ยุคนี้ แต่เนื่องจากระบบการทำงานของไมโครเวฟเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการปรุงอาหาร ทำให้หลายคนกังวลว่าใช้ไมโครเวฟทำให้เป็นมะเร็งและโรคอื่น ๆ ตามมา เป็นผลกระทบจากเตาอบไมโครเวฟ วันนี้เราจะมาคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจ และพิจารณาว่าจะใช้ไมโครเวฟทำอาหารต่อไป หรือหยุดอยู่แค่นี้ดี 

คลื่นไมโครเวฟคือคลื่นชนิดใด 

คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) เป็นคลื่่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Wave) ชนิดความถี่สูง ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แต่สามารถวัดค่าความถี่ได้ด้วยเครื่องมือเฉพาะเท่านั้น

คลื่นไมโครเวฟเกิดจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นเดียวกับคลื่นวิทยุ คลื่นทีวี คลื่นแสงสว่าง แสงอัลตร้าไวโอเลต คลื่นรังสีเอ็กซ์ และ รังสีแกรมมา แต่คลื่นไมโครเวฟจะมีความยาวคลื่นสั้นกว่า 

หลักการทำงานของเตาไมโครเวฟ

ไมโครเวฟมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เรียกว่า แมกนีตรอน (magnetron) สำหรับใช้ผลิตคลื่นไมโครเวฟที่ความถึ่ 2,450 MHz โดยจะปล่อยออกมาตามช่องว่างภายในผนังเตาที่เป็นโลหะ หมุนวนสะท้อนไปมาภายในเครื่อง เมื่อคลื่นไปกระทบอาหารหรือน้ำที่เราใส่เข้าไปในเตา จะมีการถ่ายทอดพลังงานของมันให้กับโมเลกุลของน้ำในอาหารสั่นสะเทือนและเสียดสีกันจนเกิดความร้อน ทำให้อาหารสุกเร็วกว่าเตาทั่วไป 

คุณสมบัติของคลื่นไมโครเวฟ 

คลื่นไมโครเวฟที่สะท้อนหมุนวนไปมาภายในเครื่อง ไม่สามารถทะลุผ่านโลหะได้และเกิดการสะท้อนกลับ ทำให้อาหารที่ถูกบรรจุในโลหะไม่สุก  (เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงไม่ควรใช้ภาชนะโลหะใส่เตาไมโครเวฟ) 

คลื่นไมโครเวฟสามารถผ่านทะลุวัสดุที่ไม่ใช่โลหะได้ เช่น แก้ว พลาสติก กระดาษ ไม้ และ เซรามิก เป็นต้น ดังนั้น วัสดุเหล่านี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการใช้บรรจุหรือห่อหุ้มอาหารเมื่อจะใช้ปรุงด้วยไมโครเวฟ 

เมื่อคลื่นไมโครเวฟวิ่งผ่านกระทบกับวัสดุที่มีน้ำหรือความชื้นภายใน คลื่นบางส่วนจะถูกดูดซับและถ่ายทอดพลังงานความร้อนจนทำให้เกิดความร้อนกับวัสดุนั้นขึ้น รวมถึงการเคลื่อนที่ของโมเลกุลน้ำด้วยเช่นกัน 

คลื่นไมโครเวฟมีอันตรายต่อสุขภาพไหม 

คลื่น microwave จะถูกดูดกลืนโดยน้ำในอาหาร และเปลี่ยนไปพลังงานความร้อนจนหมด จึงไม่มีคลื่นตกค้างหรือสะสมในอาหาร จึงสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย 

ไมโครเวฟมีรังสีไหม  

ไมโครเวฟมีรังสีเชนเดียวกับคลื่นวิทยุ การปรุงอาหารด้วยเตาไมโครเวฟจึงไม่มีรังสีปะปนหรือตกค้างในอาหาร เพราะเป็นรังสีที่พุ่งผ่านแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนในขณะหนึ่ง เมื่อพลังงานของมันหมดก็จะสลายตัวไป เหลือเพียงอาหารที่ถูกทำให้สุกแล้วเท่านั้น 

คลื่นไมโครเวฟใช้ทำอะไรได้บ้าง

ประโยชน์ของคลื่นไมโครเวฟสามารถใช้ได้หลายรูปแบบ 

ที่เราเรียกกันว่า เตาไมโครเวฟ และยังใช้เป็นแหล่งให้ความร้อนในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม ด้วยความถี่ 915 – 2,450 MHz 

โดยมีความถี่น้อยกว่าคลื่นไมโครเวฟที่ใช้ปรุงอาหาร เพราะการรักษาอาการป่วยจะต้องใช้ความร้อนที่ร่างกายมนุษย์สามารถทนได้ เช่น ทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูจะใช้ microwave ความถี่ต่ำ สำหรับใช้เพื่อคลายอาการปวดกล้ามเนื้อหรือปวดตามข้อ 

คลื่นไมโครเวฟอันตรายหรือมีผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร 

สำหรับการปรุงอาหารด้วยเตาไมโครเวฟไม่มีสารอันตรายตกค้าง แต่ถ้าเป็นกรณีร่างกายได้รับคลื่นไมโครเวฟที่ระดับความเข้มมาก ๆ เป็นระยะเวลานาน จะทำให้โมเลกุลของน้ำ โปรตีน และไขมันในร่างกายเกิดการเสียดสีกัน จนทำให้เกิดความร้อนแก่เซลล์และดูดกลืนสะสมเอาไว้ในอวัยวะต่าง ๆ ถ้าหากร่างกายไม่สามารถ

ระบายความร้อนจนกลับสู่สภาวะปกติได้ อาจสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะในส่วนต่าง ๆ หรือมีผลข้างเคียงตามมา ได้แก่ 

นอกจากนี้ คลื่นไมโครเวฟยังมีผลกระทบต่อเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ใกล้เคียงให้ทำงานผิดปกติได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจที่ใช้เครื่องช่วยการเต้นหัวใจ cadiac pacemaker ต้องระวังเป็นพิเศษหากจะต้องใกล้คลื่นไมโครเวฟ 

แม้ว่า เตาไมโครเวฟ จะมีประโยชน์และสะดวกต่อการใช้งาน แต่ตู้อบไมโครเวฟถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงอาจก่อให้เกิดโทษได้อย่างมหันต์หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพสินค้า ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งาน เลือกใช้ภาชนะที่เหมาะสม และเนื่องจากเตาไมโครเวฟส่วนใหญ่มักจะใช้พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างสูง จึงควรเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ เช่น ปลั๊กพ่วง สายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ที่รองรับการใช้งานกับกำลังไฟของเตาไมโครเวฟ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินจนอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินอื่น ๆ ได้ 

Exit mobile version