Site icon socarts.net | ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต ทางผม แฟชั่น สุขภาพ แต่งบ้าน…

5 ปัญหาผิวหน้าฝน ป้องกันยังไงดี เรามีมาบอก

สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน นอกจากต้องดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว การดูแลสุขภาพผิวก็เป็นสิ่งสำคัญที่เพิกเฉยไม่ได้นะคะ เพราะความอับชื้นในหน้าฝน ผิวพัง ผิวแพ้ง่าย หน้าฝนจึงส่งต่อสภาพผิวของเราได้อย่างมากเลยทีเดียว วันนี้เรามีวิธีดูแลผิวหน้าฝนเพื่อป้องกันปัญหาผิวที่หลายคนอาจกำลังเจอกันอยู่ในตอนนี้ค่ะ 

1. ปัญหาผิวหน้ามัน 

ฤดูฝนแบบนี้ ย่อมพัดพาเอาความชื้นมาด้วย ซึ่งจะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ต่อมไขมันมีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ทำให้สิ่งสกปรกเกาะติดกับผิวหน้าได้ง่าย เป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง 

วิธีแก้และการป้องกันปัญหาผิวหน้ามัน 

ล้างหน้าให้สะอาดด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย และป้องกันการเกิดสิว และควรใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าหลังจากล้างหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้าง กระชับรูขุมขน และปรับสมดุลให้กับผิว 

2. ปัญหาสิว 

ฝนตกบ่อย อากาศอับชื้น ย่อมทำให้มีปัญหาหน้ามันได้ง่าย และเกิดสิวตามมาได้ในสเต็ปถัดมา รายคนอาจมีอาการผื่นคัน หรือผื่นแดงร่วมด้วย อันเนื่องมาจากอากาศดึงความชุ่มชื้นออกไปจากผิว เมื่อถึงหน้าฝน ผิวแห้ง มักขาดความชุ่มชื้น จึงทำให้เกิดอาการคันและเป็นผื่นได้ง่าย และหากโดนละอองฝนที่มักปนเปื้อนไปด้วยสิ่งสกปรกและเชื้อโรค ยิ่งกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม 

วิธีแก้และการป้องกันปัญหาสิว 

ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำในเซลล์ผิว และทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว สำหรับผิวมัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมัน เช่น มอยเจอร์ที่เป็นเนื้อเจลหรือลิควิค เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวมีความมันมากเกินไป จนอาจยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นกว่าเดิม 

3. ปัญหาผิวหมองคล้ำ 

ฝนตก แดดไม่แรง ใครว่าไม่จำเป็นต้องทากันแดด เป็นความคิดที่ผิดมากค่ะ แม้ว่าช่วงหน้าฝน แสงแดดไม่จ้า ฟ้าครึ้ม ฝนกระหน่ำ แต่ UV ก็ยังเล็ดลอดมาทำร้ายผิวเราได้อยู่นะ แต่หลายคนมักจะละเลยการทาครีมกันแดด ทำให้ผิวหมองและคล้ำเสีย 

วิธีแก้และป้องกันปัญหาผิวหมองคล้ำ 

ทาครีมกันแดดทุกวันสม่ำเสมอ แม้ว่าจะเป็นวันฝนตก แดดไม่แรง แสงไม่มี แต่ก็ต้องป้องกันไม่ให้รังสี UV ทำร้ายผิวเสียจนหมองคล้ำได้ ด้วยการเลือกใช้ครีมกันแดด SPF30 ที่มี PA++ ขึ้นไป เพราะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ  UVB ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวมีฝ้า กระ และจุดด่างดำ 

4. ปัญหาผิวบริเวณอับ กลิ่นตัว 

ความอับชื้นจากสภาพอากาศในช่วงหน้าฝน เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหากลิ่นตัว อีกทั้งความอับชื้นจากเหงื่อของเราเอง รวมถึงเสื้อผ้าอับชื้นที่สวมใส่เพราะเปียกฝนหรือแห้งไม่สนิท ทำให้เชื้อราและแบคทีเรียเจริญเติบโตและทำปฏิกิริยาจนเกิดกลิ่นเหม็นอับ กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจนเป็นกลิ่นตัว และบางคนอาจมีปัญหากลากเกลื้อนตามมาด้วย 

วิธีแก้และป้องกันปัญหากลิ่นตัว 

รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเน้นบริเวณจุดซ่อนเร้น และบริเวณอับที่มักมีเหงื่อและอับชื้นได้ง่าย เช่น ข้อพับ รักแร้ หลังใบหู ศีรษะ และเท้า ควรหมั่นทำให้บริเวณเหล่านี้แห้งอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้เปียกอับชื้น อาจใช้แป้งฝุ่นช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกิน ใช้กระดาษหรือผ้าขนหนูคอยซับเหงื่อบริเวณดังกล่าวบ่อย ๆ 

5. ปัญหาผิวหนังศีรษะ คัน ผมร่วง 

ปัญหาคันศีรษะ ผมร่วง หน้าฝน มักมาจากความชื้นในอากาศ เหงื่อ และสิ่งสกปรกต่าง ๆ รวมไปถึงเชื้อโรคในน้ำฝน เป็นปัจจัยให้เกิดแบคทีเรีย ทำให้ศีรษะติดเชื้อรา หนังศีรษะเกิดอาการอักเสบจนทำให้ร่วง 

วิธีแก้และป้องกันปัญหาอาการคันศีรษะ ผมร่วง 

เมื่อตากฝนหรือโดนละอองฝน ให้รีบสระผมทันที โดยเลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน เช็ดผมให้หมาดและเป่าให้ผมแห้ง หลีกเลี่ยงการเป่าผมด้วยความร้อนสูง เพราะจะทำให้ผมแห้งเสียได้ 

Exit mobile version