หลาย ๆ บ้านที่มักจะมีเครื่องซักผ้าพร้อมอบ หรือมีเครื่องอบผ้าแยกต่างหาก แต่มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ใช้บริการเครื่องซักผ้า หรือเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ ซึ่งต้องยอมรับว่า อุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตได้อย่างมาก แต่รู้ไหมว่า การใช้งานเครื่องอบผ้ามีข้อห้ามการใส่ผ้าบางชนิดลงไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสียหาย และเป็นอันตรายได้ ว่าแต่ผ้าที่ไม่ควรนำเข้าเครื่องอบผ้ามีประเภทไหนบ้างนะ
1. ผ้าคอตตอน (cotton)
เนื่องจากคอตตอน หรือ ผ้าฝ้าย คือ ผ้าที่ทำมาจากใยฝ้าย ซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติ เมื่อถูกความร้อนจะเกิดการหดตัว ทำให้ผ้ามีขนาดเล็กลงได้ ดังนั้น ก่อนจะนำผ้าใส่เครื่องอบ ควรเช็กชนิดเนื้อผ้าจากป้ายแท็กที่ติดไว้บนผ้าก่อนทุกครั้ง
2. ผ้าไหม (silk)
ผ้าไหม ผลิตมาจากเส้นใยธรรมชาติ เมื่อถูกความร้อนจะเกิดการหดตัวเช่นเดียวกับใยฝ้าย ทำให้ผ้าเกิดความเสียหายได้ เมื่อนำไปเข้าเครื่องอบ
3. ผ้าไหมพรม ชุดไหมพรม
ความร้อนภายในตู้อบผ้า จะส่งผลทำให้เส้นไหมพรมเกิดความเสียหาย เสื้อหรือชุดไหมพรมหด เส้นใยหลุดร่วงหรือรวมเป็นก้อน ทำให้ตู้อบสกปรก และเครื่องอบผ้าอาจเกิดความเสียหายจากเส้นไหมพรม ที่หลุดเข้าไปติดในช่องต่าง ๆ ได้
4. ผ้าลูกไม้
ผ้าลูกไม้ เป็นผ้าที่มีความบอบบาง เมื่อนำไปเข้าตู้อบผ้า นอกจากจะทำให้ผ้าลูกไม้เสียหาย เส้นด้าย หรือเศษเนื้อผ้าที่หลุดร่อนออกมายังอาจไปทำให้เสื้อผ้าชิ้นอื่น ๆ เสียหายไปด้วย และเศษด้ายอาจหลุดเข้าไปติดตามซอกหรือมุมต่าง ๆ ภายในตู้อบผ้าอีกด้วย
5. ผ้าเรยอน
ผ้าเรยอน ผลิตจากเส้นใยเซลลูโลสธรรมชาติ เมื่อโดนความร้อนจะเกิดการหดตัว หรือหลุดรุ่ยได้ จึงไม่แนะนำให้นำเนื้อผ้าเรยอนเข้าตู้อบแห้ง
6. ผ้าขนสัตว์
ผ้าขนสัตว์ หรือ ชุดขนสัตว์ต่าง ๆ ไม่ควรนำเข้าตู้อบผ้า เพราะความร้อนภายในเครื่องอบ จะส่งผลความเสียหาย ทำให้ด้านหลังของขนในเนื้อผ้าแตกและหลุดร่วง หรืออาจเกิดการละลาย หากเป็นขนสัตว์สังเคราะห์
7. ชุดหนัง
เสื้อผ้าหนัง ชุดหนัง หรือเครื่องหนังต่าง ๆ เมื่อนำเข้าตู้อบผ้าแห้ง ความร้อนของเครื่องจะทำให้ผ้าหนังเสียรูปทรง เกิดรอยต่าง ๆ บนเนื้อผ้าจนเห็นได้ชัด ฉะนั้น การดูแลชุดหนังที่ดี ควรทำให้แห้งด้วยการผึ่งลมเท่านั้น
8. ชุดออกกำลังกาย
ชุดออกกำลังทุกประเภท ชุดผ้าร่ม รวมไปถึง ชุดว่ายน้ำ เพราะชุดเหล่านี้ล้วนถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง และระบายอากาศเพื่อลดการสะสมกลิ่นเหงื่อติดผ้า หากนำไปใส่ในเครื่องอบผ้า จะทำให้ผ้าเสีย่รูปทรง เนื้อผ้าอาจยืดหรือหดลงได้ จึงควรทำชุดออกกำลังกายให้แห้งด้วยการผึ่งลมดีกว่า
9. ผ้าที่มีการตกแต่ง
ผ้าที่ตกแต่ง หรือประดับด้วยวัตถุต่าง ๆ เช่น ชุดปักเลื่อม ติดหมุด ชุดสกรีนลาย ชุดชั้นในมีโครง ชั้นในมีโฟมหรือยาง เพราะของตกแต่ง หรือกาวที่ติดของประดับอาจละลายจากความร้อนในเครื่อง สร้างความเสียหายต่อเนื้อผ้า และอาจเกิดอันตรายอื่น ๆ ตามมาด้วยเช่นกัน
10. ผ้าหรือเสื้อผ้าเปื้อนคราบน้ำมัน
ห้ามใส่ผ้าทุกชนิดที่เปื้อนคราบน้ำมันลงในเครื่องอบผ้าเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้คราบน้ำมันไปติดกับเสื้อผ้าชิ้นอื่น ๆ ยังเสี่ยงต่อการทำให้เกิดไฟลุกไหม้ภายในตู้อบ จนอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมหาศาล
11. รองเท้าผ้าใบ รองเท้ากีฬา ถุงเท้า
ไม่ควรนำรองเท้ากีฬา และ รองเท้าผ้าใบเข้าตู้อบ รวมไปถึงถุงเท้า เพื่อทำให้แห้งเด็ดขาด เพราะถึงแม้ว่ารองเท้าผ้าใบจะทำมาจากผ้า แต่ยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ ที่อาจเกิดความเสียหายเมื่อโดนความร้อนได้ เช่น พื้นยาง ยางกันลื่น ขอบรองเท้าที่เป็นซิลิโคน อาจเกิดการละลาย หดตัว หรือกาวที่ติดแปะวัสดุภายในรองเท้าหลุดร่อน จนสร้างความเสียหายให้กับรองเท้า และอาจรวมไปถึงตู้อบผ้าเสียหายได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีลักษณะหรือประเภทผ้าที่ไม่ควรนำเข้าตู้อบแห้ง เช่น ผ้าเปียก ผ้าที่ไม่ได้ปั่นหมาด หมอนยางพารา ตุ๊กตา พรมเช็ดเท้าทุกชนิด ผ้าที่มีสัญลักษณ์ห้ามอบแห้ง โซ่ผ้าม่าน สิ่งของที่มีไส้เป็นทราย เม็ดบีท หรือโฟม โลหะ และ ของมีคม ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อการใช้งาน และช่วยรักษาสภาพเสื้อผ้าให้ใช้งานได้นาน ๆ ควรสังเกตและอ่านป้ายบอกชนิดผ้าก่อนนำไปใส่ตู้อบผ้าเสมอ ควรใช้อย่างระมัดระวัง และศึกษาข้อมูล คู่มือการใช้งานของเครื่องอบผ้า หรือข้อแนะนำชนิดผ้าที่นำเข้าเครื่องอบได้ รวมไปถึงข้อห้ามต่าง ๆ ในร้านบริการรับซัก – อบผ้าอัตโนมัติก่อนใช้งานทุกครั้ง