สาวๆคนไหนมีปัญหาเรื่องการใช้สกินแคร์บ้างเอ่ย.. เชื่อว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับผิวหน้าเป็นอันดับต้นๆ การเลือกใช้อะไรที่เกี่ยวกับใบหน้า ก็ต้องพิถีพิถัน เลือกแล้วเลือกอีก แม้บางครั้ง จะต้องควักเงินจำนวนไม่น้อย ใครรีวิวว่าตัวไหนดี ก็ซื้อตาม เพื่อให้ได้มีใบหน้าเนียนใส แต่แทนที่จะได้ผลดีเหมือนคนอื่น กลับเจอปัญหาผิวหนักกว่าเดิมเสียอย่างนั้น
ทำไมใช้สกินแคร์แล้วหน้าไม่ดีขึ้น? อย่าเพิ่งโทษครีมว่าไม่ดี บางทีอาจเป็นที่การใช้งานของเราเองหรือเปล่า?!? เรามีสาเหตุที่น่าจะเป็นตัวการที่ทำให้สกินแคร์ที่ซื้อมาไม่ได้ผลอย่างที่ควรจะเป็น มีอะไรบ้าง ไปดูกัน ว่ามีข้อไหนตรงกับคุณบ้าง จะได้ปรับ ลด เลิก เปลี่ยน เพื่อจะได้ใช้สกินแคร์ได้อย่างคุ้มค่า
อ่านวิธีใช้ไม่ละเอียด หรือทาครีมผิดวิธี
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แม้ว่าจะเป็นประเภทเดียวกัน แต่ skin care แต่ละตัว ได้มีการผลิตโดยวิธีใช้แตกต่างกัน ต่อให้คุณเป็นสายสกินแคร์ หรือเป็นกูรู และบลอกเกอร์รีวิวสกินแคร์มาแล้วกว่าหลายร้อยแบรนด์ แต่เมื่อจะใช้สกินแคร์กับผิวทุกครั้ง ก็ควรที่จะอ่านรายละเอียดวิธีการใช้ ที่แนบมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ครั้งแรกเสมอ เพื่อจะได้ใช้อย่างถูกวิธี เพราะผลิตภัณฑ์จะมีการระบุวิธีการใช้ เวลา ปริมาณ ความถี่ในการใช้สกินแคร์ อย่างชัดเจน และเมื่อใช้ผิดวิธี แทนที่จะได้ผลดี อาจระคายเคืองจากการทาครีมในปริมาณที่มากเกินไป
ผิวไม่สะอาดทำให้สกินแคร์ไม่ซึมเข้าผิว
เพราะการล้างหน้าให้สะอาด ก็เหมือนเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับเปิดรับการบำรุง จากเนื้อครีมอย่างเต็มที่ หากหน้าไม่สะอาด หรือล้างไม่ถูกวิธี ยังมีคราบสกปรก น้ำมัน และฝุ่นละอองบนใบหน้า จะเป็นตัวขวางกั้น ทำให้ทาครีมไม่เข้าหน้า ดังนั้น ต่อให้ใช้สกินแคร์เคาน์เตอร์แบรนด์ ที่มีราคาแพง และได้ชื่อว่าเป็นครีมที่ดีที่สุดแค่ไหน แต่ตราบใดที่ผิวหน้าไม่สะอาดพอ ครีมก็ไม่สามารถซึมลงสู่ผิวได้เต็มที่ จึงควรล้างคราบสกปรกบนใบหน้าให้ถูกวิธี เพื่อที่หน้าจะได้สะอาด พร้อมรับการบำรุงจากสกินแคร์ได้อย่างเต็มที่ หมดปัญหาทาครีมไม่ได้ผล
ใช้สกินแคร์หมดอายุ
สาวๆที่ชอบซื้อสกินแคร์มาตุนไว้ เพราะอาจเป็นช่วงโปรโมชั่น ลดราคา รายการแถม ฯลฯ แต่สกินแคร์ย่อมจะมีวันหมดอายุ ยิ่งถ้าเก็บไม่ดีพอ ก็อาจหมดอายุก่อนวันที่ระบุ การกักเก็บตุนสกินแคร์ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ปัญหาที่มักจะตามมา คือ ใช้ไม่ทัน ยิ่งสกินแคร์ตัวไหนที่ปกติมีราคาแพง เกิดหมดอายุก่อนจะทันได้ใช้หมด บางคนยอมใช้ต่อด้วยความเสียดาย แม้ว่าสกินแคร์หมดอายุแล้วก็ตาม และต่อให้สีและกลิ่นของมันจะยังปกติ แต่คุณภาพของส่วนผสมในครีมไม่คงเดิม นอกจากจะไม่ให้ผลดีแล้ว อาจจะยิ่งทำให้ผิวแพ้ หน้าพังไปเลย แล้วก็โทษว่าครีมไม่ดี เสียอย่างนั้น
ส่วนผสมในสกินแคร์ไม่เข้ากัน
แม้ว่าส่วนผสมของสกินแคร์แต่ละตัว จะมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิว แต่ส่วนประกอบบางชนิดก็ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ เมื่อถูกนำมาประกอบในสารเดียวกัน แทนที่จะทำงานร่วมกัน อาจตีกันจนไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพที่ดีต่อผิวได้ หรือซ้ำร้าย อาจเกิดปฏิกิริยาต่อผิวจนผิวหน้าพังไปเลยก็ได้ ดังนั้น เมื่อจะใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ตัวใดก็ตาม ควรทำการศึกษาส่วนผสมของสกินแคร์ตัวนั้นก่อนใช้ให้ดี
ซื้อสกินแคร์ตามรีวิว
ผิวแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การดูแลจึงแตกต่างกันด้วย แต่คนมีสาวๆจำนวนไม่น้อย ที่มักจะเลือกซื้อสกินแคร์ตามรีวิว ที่เหล่าเซเลบคนดัง หรือ อินฟลูเอนเซอร์ ได่ทำการรีวิว โฆษณา โดยไม่ได้คำนึงถึงสภาพผิว และความเหมาะสม เมื่อใช้สกินแคร์ที่ไม่ตรงกับลักษณะของผิวตัวเองแล้ว นอกจากจะไม่ทำให้เกิดผลดีแล้ว อาจทำให้เกิดปัญหากับผิวหน้าได้มากกว่าที่คิด บางคนถึงขั้นสิวเห่อ จากที่ไม่เคยมีสิวก็ได้ เพราะใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้านั่นเอง
ใจร้อนอยากเห็นผลเร็ว
สาวๆหลายคนมีความใจร้อน อยากเห็นผลลัพท์เร็วๆ ทำให้มักจะไม่ค่อยได้ผล เพราะเมื่อใช้ตัวใดแล้วไม่เห็นผลในทันที ก็เปลี่ยนตัวสกินแคร์ไปเรื่อยๆ โดยการแบบนี้ นอกจากจะไม่เห็นผลดี อาจยิ่งทำให้เสี่ยงต่อผิวแพ้ได้ง่าย ดังนั้น เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใด ก็ควรที่ใช้ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เวลาให้ได้แสดงประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมี หรือจำพวกสารเร่งต่างๆ ยิ่งต้องใช้เวลา เพื่อปรับสภาพผิว รวมไปถึงการบำรุง ควรให้ระยะเวลา และคอยสังเกตปฏิกิริยาของผิว หากได้ผลลัพท์ที่ก่อให้เกิดผลเสียกับผิว เช่น คัน มีอาการบวมแดง ผื่นแดง ให้รีบหยุดใช้ทันที และปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปรับแก้ปัญหาได้อย่างถูกวิธีต่อไป