ต้อนรับวันโยคะสากล (International Day of Yoga ) กันหน่อย ด้วยการมาเล่นโยคะยืดเส้น ออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายและจิตใจ มีความแข็งแรงไปด้วยกันอย่างสมดุล แน่นอนว่าคนให้ความสนใจเรื่องของศาสตร์โยคะกันมากขึ้น แล้วรู้ไหมว่า การเล่นโยคะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
1.ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ปรับระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ
2.ลดความเสี่ยง หรือบรรเทา โรคเกี่ยวกับเลือด เช่น เวียนศีรษะง่าย ผิวพรรณไม่ผ่องใส อาการโรคภูมิแพ้
3.กระตุ้นสมองให้มีความจำดีขึ้น
4.ช่วยให้กล้ามเนื้อ ข้อต่อ เอ็น และอวัยวะทุกส่วนในร่างกายมีความยืดหยุ่น
5.ป้องกันอาการปวดหลัง ปวดต้นคอ และปวดศีรษะ
6.ปรับกระดูกและสรีระสัดส่วนให้สมดุล ยืดตรง ไม่คดงอ
7.ช่วยควบคุมน้ำหนัก
8.แก้โรคนอนไม่หลับ นอนหลับยาก ทำให้หลับง่าย และหลับลึกขึ้น
9.ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง เพราะระบบเลือดไหลเวียนสะดวก
10.หลังจากการฝึกโยคะ จะเกิดคลื่นอัลฟา ที่ช่วยให้สมองผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด
11.ช่วยให้ระบบอวัยวะภาย เช่น หัวใจ ตับ ไต กระเพาะอาหาร ฯลฯ แข็งแรงขึ้น
12.ระบบการเผาผลาญแคลอรี่ดีขึ้น
13.มีสมาธิในการทำกิจกรรมทุกอย่าง
14.ช่วยลดอาการความขี้หลงขี้ลืม
15.ลดความวิตกกังวล
16.บรรเทาอาการกล้ามเนื้อตึง
17.ลดความบกพร่องทางเพศสัมพันธ์
เมื่อรู้ถึงข้อดีของโยคะอย่างนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มฝึกโยคะกันเถอะ มี โยคะพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มฝึกโยคะมือใหม่ หรือผู้ที่สนใจจะลองเล่นโยคะเพื่อสุขภาพ โดยท่าโยคะพื้นฐานที่นำมาฝากนี้ สามารถทำตามได้ง่าย แต่ถ้าไม่มั่นใจ ควรมีผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะ คอยดูแลหรือควบคุม เพื่อจะได้เล่นโยคะอย่างปลอดภัย
โยคะเบื้องต้น 10 ท่า ที่ผู้ฝึกโยคะมือใหม่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ แค่มีเสื่อโยคะสักผืนก็เล่นได้แล้ว
1.ท่าต้นไม้
เริ่มโยคะท่ายืนด้วยท่าต้นไม้ ซึ่งเป็นท่าที่ใครหลายคนคงเห็นมาบ้างแล้ว โยคะท่าต้นไม้จะช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับร่างกาย ลดความเครียด บรรเทาอาการปวดหลัง ยังเหมาะกับผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยทองอีกด้วย เพราะช่วยลดอาการจากวัยทองได้จากการเล่นโยคะท่าต้นไม้
การทำท่าโยคะ : เริ่มต้นจากการยืนตัวตรงในท่านมัสการ จากนั้นยกขาขวาขึ้นประกบโคนขา โดยใ้หผ่าเท้าขนานกับขาซ้าย งอขาซ้ายเล็กน้อย เพื่อประคองน้ำหนักตัว จากนั้นยกมือทั้ง 2 ข้าง แบบท่านมัสการเหนือศีรษะ โดยทำสลับข้าง เพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับร่างกาย
2.ท่าตรีโกณ
เป็นอีกท่าโยคะที่เหมาะกับสาว ๆ ที่มีอาการเครียดบ่อย ๆ โดยเฉพาะสาวที่กำลังเข้าสู่วัยทอง
กาทำท่าโยคะ : เริ่มจากยืนตัวตรงในท่านมัสการ สูดหายใจเข้า แล้วค่อย ๆ ก้าวเท้าขวาไปด้านหลัง เปิดปลายเท้า 90 องศา ก่อนหายใจออก เหยียดมือให้ขนานกับหัวไหล่ เหวี่ยงมือขวาลงพื้นแตะปลายเท้าขวา ส่วนข้างซ้ายเหยียดขึ้นขนานหัวไหล่ จากนั้นใช้สายตามองไปตามปลายนิ้วมือข้างซ้าย แล้วค่อยกลับมายืนท่าตรง ทำเช่นนี้สลับข้างกัน
3.ท่านักรบ
ท่านักรบ เป็นท่าโยคะยืดเส้นเอ็นช่วงไหล่ หลัง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้
การทำท่าโยคะ : เริ่มจากการยืนตรง ก้าวขาข้างหนึ่งไปด้านหลัง ชูแขนทั้งคู่ขึ้นเหนือศีรษะ โดยให้แขนทั้ง 2 ข้างเหยียดแนบหู ย่อเข่าด้านหน้าลง เหยียดขาอีกข้างไปด้านหลังประมาณ 45 องศา จะรู้สึกเกร็งหน้าขา แสดงว่าทำท่าถูกต้อง จากนั้นยืดเข่าที่งออยู่ข้างหน้าขึ้น เพื่อออกจากท่า แล้วทำสลับกับอีกข้าง
4.ท่าแยกขาก้มตัว
ท่าแยกขาก้มตัว หรือ “อุปวิตถะ โกณาสนะ” ซึ่งท่านี้จะช่วยบรรเทาอาการกระดูกสันหลังคด บริหารกล้ามเนื้อขา เพิ่มความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ และ เส้นเอ็น
การทำท่าโยคะ : เริ่มจากการเหยียดขาตรง แล้วแยกขาทั้ง 2 ข้างออกให้กว้างมากเท่าที่จะทำได้ จากนั้นค่อย ๆ ก้มตัวลงไปช้า โดยที่ไม่ต้องฝืน ต่อด้วยการกำหนดลมหายใจให้มีความสม่ำเสมอ
5.ท่ายืนก้มตัว
ท่ายืนก้มตัว ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว แก้อาการนอนไม่หลับ หลับยาก ดูแลกล้ามเนื้อต้นขา และ อวัยวะภายในช่องท้อง
การทำท่าโยคะ : เริ่มจากการยืนเท้าชิด หรืออาจแยกออกเท่าช่วงไหล่ แล้วก้มลงไปขณะหายใจออก วางมือแนบไว้ช่วงหลังเท้า ทำค้างไว้ประมาณ 30 วินาที – 1 นาที แล้วจึงเอามือจับสะโพก เพื่อยกตัวขึ้น เป็นการออกจากท่า
6.ท่าสุนัขก้มหน้า
ท่าโยคะสุนัขก้มตัว ยืดกระดูกสันหลัง ต้นขาหลัง เข่า น่อง ไหล่ และ แขน ไปพร้อม ๆ ในเวลาเดียวกัน
การทำท่าโยคะ : เริ่มจากการทำท่าคลาน แล้วกางแขนและขาออก กางนิ้วมือให้กว้าง ยกตัวขึ้นให้ขาตรง ให้ส้นเท้าติดกับพื้น สำหรับใครที่ทำขาตรงไม่ได้ สามารถงอเข่าได้เล็กน้อย จากนั้นปล่อยให้ช่วงคอและไหล่ ผ่อนคลายสบายๆ แล้วหายใจเข้าปอดลึก ๆ ทำค้างไว้ประมาณ 1 นาที
7.ท่าธนู
ท่าธนู หรือ Bow ท่าโยคะที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลัง ไปตลอดจนถึงช่องท้อง
การทำท่าโยคะ : เริ่มจากการนอนคว่ำ แยกเท้าทั้งสองข้างห่างกันเล็กน้อย ให้หน้าผากจรดพื้น งอเข่าแล้วใช้มือทั้ง 2 ข้าง จับข้อเท้าทั้ง 2 ไว้ แล้วหายใจเข้าลึก ๆ ยกตัว เข่า และต้นขาขึ้นจากพื้น ก่อนจะบียเข่าและปลายเท้าเข้าหากันให้มากที่สุด ทำค้างไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วค่อยคลายเท้าออก
8.ท่าเด็ก
โยคะท่าเด็กนี้ จะช่วยผ่อนคลายช่วงสะโพกและต้นขา ลดอาการปวดหลังไปจนถึงคอ
การทำท่าโยคะ : เริ่มต้นโดยคุกเข่านั่งลงบนส้นเท้า หายใจเข้าพร้อมก้มตัวลง เอาหน้าผากแตะพื้น โดยที่ก้นยังติดส้นเท้าอยู่ จากนั้นวางแขนเหยียดตรงทั้งคู่ ยืดให้สุดแขน แล้วหายใจเข้า-ออก ประมาณ 5 รอบ
9.ท่างูเห่า
ท่างูเห่า เป็นโยคะท่านอน ช่วยในเรื่องของการลดไขมันหน้าท้อง และกระชับกล้ามเนื้อช่วงแผ่นหลังได้ดีเลยทีเดียว
การทำท่าโยคะ : เริ่มจากการนอนคว่ำ งอศอก มือแนบลำตัว ชิดขาทั้งสองข้าง จากนั้นใช้มือยกช่วงตัวขึ้น โดยให้ศอกงอเล็กน้อย เงยหน้า เปิดไหล่ ให้ศีรษะขนานกับลำตัวบน จากนั้นหายใจเข้า-ออก ประมาณ 3-5 รอบ
10.ท่าดันพื้น
ท่าดันพื้นจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้หน้าท้อง และกล้ามเนื้อแขน
การทำท่าโยคะ : ท่าดันพื้น จะคล้ายกับท่างูเห่า เริ่มจากการนอนคว่ำ จากนั้นใช้มือดันพื้น งอข้อศอก แล้วดันตัวเองให้ศอกตึง ใช้ปลายเท้าดันพื้น เหยียดตัวให้ตรง ยืดคอขึ้น ให้คอ ไหล่ สะโพก อยู่ในระนาบเดียวกัน แล้วทำค้างไว้ประมาณ 30 วินาที หรือเมื่อชำนาญแล้วจะค้างไว้ 1 นาที ก็ได้
หากลองทำตามบทความของเราแล้วไม่แน่ใจว่าทำท่าถูกต้องหรือไม่ สามารถเปิดดูในยูทูปเพิ่มเติม เพื่อจะได้เห็นภาพอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนใครที่สนใจที่จะเและต้องการเพิ่มระดับของโยคะขั้นสูงขึ้น ลองหาคลาสใกล้บ้าน หรือฝึกกับผู้เชี่ยวชาญจนสามารถกลับไปทำเองได้ที่บ้าน ก็นับเป็นการออกกำลังกายที่ดี ช่วยให้รางกายได้ยืดเส้นยืดสาย ได้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจดีขึ้น