สำหรับคนที่เลี้ยงน้องแมว มีเจ้านายเป็นของตัวเอง ย่อมมีความรักและปรารถนาดีให้กับพวกเขา อะไรที่ใครว่าดีต่อน้องแมว ก็จัดสรรหามาให้เพื่อเอาใจแมวแสนรัก ซึ่งก็รวมไปถึงสารพัดต้นไม้ด้วยเช่นกัน
สมุนไพรแมวกินได้ ที่มีกระแสพร้อมกับอวดอ้างสรรพคุณเสมือนเป็นยาวิเศษ วันนี้เราจะมาค้นหากันว่า ต้นไม้ที่แมวกินได้มีอะไรบ้าง และจะปลอดภัยต่อน้องแมวจริงใช่ไหม เพราะพืชบางชนิดเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง แต่เป็นมิตรกับคน ดังนั้น เราไปดูข้อมูลกันเลยดีกว่า จะได้หามาเอาใจเจ้านายไม่ผิดประเภทกันค่ะ
1. ต้นอ่อนข้าวสาลี
ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นพืชล้มลุก ปลูกง่ายด้วยการเพาะเมล็ด เพียงแค่หว่านลงดินและรดน้ำ วางไว้ที่มีแสงรำไรประมาณ 4 – 5 วัน ต้นอ่อนจะงอกขึ้นมา แต่อย่าปล่อยให้เกิน 7 วัน เพราะใบจะแข็งและหยาบ น้องแมวจะกินได้ยาก ใช้กรรไกรตัดเล็มต้นเก่าให้เหลือครึ่งต้น เพื่อให้ต้นแตกใบใหม่ น้องแมวก็จะกินได้อีกครั้ง ประโยชน์ของต้นอ่อนข้าวสาลีมีไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ขจัดก้อนขน ปรับสมดุลในร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยสมานแผลให้กับน้องแมว ทำให้แผลน้องแมวหายเร็วขึ้น แต่ถ้าแมวกินต้นอ่อนข้าวสาลีมากเกินไป อาจทำให้น้องแมวมีอาการท้องเสีย หรืออาเจียนได้
2. ตำแยแมว
ตำแยแมวเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน มี 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ 1.) ตำแยแมวตัวผู้ มีลักษณะใบกลม 2.) ตำแยแมวตัวเมีย มีลักษณะใบแหลม ซึ่งชนิดตำแยแมวที่น้องแมวกิน คือ ตำแยแมวตัวผู้ มีลักษณะลำต้นตั้งตรง สูงได้ถึงประมาณ 2 ฟุต แตกกิ่งก้านจากโคนต้น มีเนื้อภายในอ่อน ไม่แข็งแรง ชอบขึ้นตามที่ชื้นแฉะ หรือที่ดินเย็น ๆ รากช่วยในการขับพิษ แก้อาการไข้ ช่วยให้แมวสำรอกพิษหรืออาเจียนออกมาได้ นอกจากนี้ น้ำมันหอมระเหยในต้นตำแยแมวยังช่วยให้แมวเคลิบเคลิ้ม รู้สึกผ่อนคลาย และเจริญอาหารมากขึ้น ส่วนการขยายพันธุ์ ทำได้ด้วยการปักชำหรือการแยกต้น
3. ไผ่เงิน
ไผ่เงิน เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีลำต้นสีเขียว มีข้อเป็นปล้องชัดเจน ชอบน้ำ ชอบแดดจัด สามารถปลูกในดินได้ทุกชนิด แต่อย่าปล่อยไว้กลางแดดจัด ๆ เพราะจะทำให้ใบแห้งได้ การขยายพันธุ์ ใช้การปักชำ แยกเหง้า หรือฝังกอ และปลูกในกระถางได้เลย ไผ่เงินมี Fiber สูง ช่วยในการขับถ่าย บรรเทาความเจ็บปวด ลดการอักเสบบาดแผลในกระเพาะหรือลำไส้แมว และช่วยป้องกันก้อนขนไม่ให้อุดตันในลำไส้ และด้วยลักษณะของใบไผ่เงินที่สาก จึงช่วยขจัดคราบหินปูนที่เกาะตามฟันของแมวให้หลุดออกไป ลดอาการปากเหม็นในน้องแมวได้
4. เปปเปอร์มินต์
เปปเปอร์มินต์ เป็นพืชในตระกูลมินต์ที่นิยมปลูกด้วยการปักชำ สามารถปลูกได้ในดินร่วนซุย รดน้ำใ้หชุ่ม เช้า-เย็น แต่ระวังให้น้ำแฉะหรือมีน้ำท่วมขัง เพราะรากจะเน่าได้ และควรจัดวางไว้ในที่ไม่โดนแดดมากเกินไป ประโยชน์ของเปปเปอร์มินต์ คือ ช่วยละลายเสมหะ ลดน้ำมูก ช่วยระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น ลดอาการเจ็บปวด แต่ถ้าให้เจ้านายกินมินต์มาก ๆ ก็ส่งผลอันตรายต่อระบบประสาทได้ ดังนั้น ไม่ควรให้น้องแมวกินเปปเปอร์มินต์มากเกินไป อาจให้กินเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเมื่อมีอาการตามสรรพคุณของมินต์ดังกล่าวก็พอ
5. แคทนิป
แคทนิป หรือ กัญชาแมว เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลมินต์ด้วยเช่นกัน จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สามารถสูงได้ประมาณ 1 เมตร ลำต้นมีสีเขียวอมน้ำตาล ส่วนใบสีน้ำตาลเขียว มีลักษณะเป็นรูปไข่ มีรอยหยัก และมีดอกขนาดเล็กสีขาวหรือขาวปนม่วง ชอบดินระบายน้ำ ปลูกโดยโรยเมล็ดแล้วใช้ดินกลบ รดน้ำทุกวัน แต่ห้ามให้น้ำขัง ตั้งไว้ในที่มีแดดส่องถึง แคปนิป มีน้ำมันหอมระเหย เมื่อแมวได้สูดดมหรือกินเข้าไป จะรู้สึกผ่อนคลาย มีอาการเคลิบเคลิ้ม กลิ้งไปมาตามพื้น อารมณ์ดี และช่วยให้แมวเจริญอาหาร กัญชาแมวจะมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 10 นาที แม้ว่าจะไม่มีอันตรายต่อน้องแมว แต่ควรให้กินแต่พอดี อย่าให้มากเกินไป เพราะอาจทำให้น้องแมวเฉื่อยชาเกินไปได้ นอกจากแคปนิปจะช่วยให้แมวคลายเครียดแล้ว ยังใช้ปลูกเพื่อไล่ยุง และแมลงต่าง ๆ เช่น แมลงวัน แมลงหวี่ หรือแมลงสาบได้อีกด้วย
