ความรู้อื่นๆเครื่องมือ

“น้ำมันเบรก” สิ่งสำคัญที่คนขับรถไม่ควรมองข้าม 

Close up hand of a man in repair shop holding the tank for changing car brake fluid. Maintenance concept

ระบบเบรก เป็นอีกหัวใจของความปลอดภัยจากการใช้รถ เพราะหากระบบเบรกมีปัญหา หรือเบรกไม่ทำงาน ย่อมเสี่ยงอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุ จนเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแน่นอน เบรกรถจึงเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญที่จะต้องมีการดูแลรักษารถไม่แพ้แบตเตอรี่ ไดชาร์จ หรือเครื่องยนต์อื่น ๆ เลย

ดังนั้น เจ้าของรถจึงควรที่จะหมั่นเช็คสภาพรถเพื่อตรวจสอบความพร้อมของรถก่อนใช้งาน ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้ แต่หลายคนอาจไม่แน่ใจว่า แล้วเจ้าน้ำมันเบรกจะต้องเปลี่ยนตอนไหน หรือจะเลือกใช้น้ำมันเบรกแบบไหนดี เพราะมีน้ำมันเบรกหลายชนิดเหลือเกิน 

น้ำมันเบรกคืออะไร ทำหน้าที่อะไร และน้ำมันเบรกที่ดีควรเป็นอย่างไร 

น้ำมันเบรกคือของเหลวชนิดหนึ่งที่เป็นน้ำมันไฮดรอลิค ทำหน้าที่หลัก ๆ อยู่ 2 อย่าง คือ ช่วยส่งถ่ายแรงจากเท้าเราที่เหยีบบไปยังคาลิเปอร์หรือลูกสูบปั๊มเบรกล่าง และช่วยหล่อลื่นในระบบเบรก โดยขณะที่เหยียบเบรกจะเกิดการเสียดสีกันระหว่างผ้าเบรกกับจานเบรกซึ่งมีส่วนผสมของโลหะทั้งคู่ ทำให้เกิดความร้อนสะสม จึงควรเลือกน้ำมันเบรกที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อให้ระบบการทำงานภายในเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพ เนื่องจากความร้อนที่เกิดขณะที่ระบบเบรกทำงานจะทำให้น้ำมันเบรกเดือดเหมือนของเหลวทั่วไป หากเป็นน้ำมันเบรกไร้คุณภาพจะทำให้คุณสมบัติของน้ำมันไฮดรอลิคหายไป ไม่สามารถ่ายแรงไปยังคาริเปอร์ ส่งผลให้เบรกไม่ทำงานหรือเบรกแตกได้ 

เลือกอย่างไรให้ได้น้ำมันเบรกที่ดี

  • น้ำมันเบรกมีจุดเดือดสูง ระเหยได้ยาก 
  • ทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นที่ดีป้องกันการเสียดสี 
  • ทำหน้าที่เป็นตัวกลางถ่ายแรงจากแป้นเบรคสู่ระบบได้ดี 
  • มีความหนืดดีทั้งในอุณหภูมิร้อนและเย็นจัด 
  • ไม่กัดกร่อนชิ้นส่วนอะไหล่ในระบบเบรกที่เป็นโลหะหรือยาง

ประเภทน้ำมันเบรก

น้ำมันเบรกที่มีคุณภาพนั้นจะดูได้จากมาตรฐานที่รับรอง เช่น สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ของอเมริกา (SAE) , กรมการขนส่งของอเมริกา (Dot : Department Of Transportation) และ สมาคมกำหนดมาตราฐานระหว่างชาติ (ISO) โดย Dot คือ มาตรฐานน้ำมันเบรกที่คนไทยรู้จักและนิยมใช้มากที่สุด

ปัจจุบันมีน้ำมันเบรก 3 ประเภท คือ Dot 3 , Dot 4 และ Dot 5 แต่ก็ยังมีแยกย่อยลงไปอีก เช่น Dot 3 ธรรมดา Super Dot 4 หรือ Dot 5.1 เป็นต้น โดยรถยนต์ในเมืองไทยส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันเบรก Dot 3 , และ Dot 4  ในขณะที่ Dot 5.1 สำหรับ Super Car หรือ รถ Performance ระดับสูง

มาตรฐานน้ำมันเบรกชนิด Dot 

น้ำมันเบรกประเภท Dot จะมีการแบ่งเกรดและกำหนดมาตรฐานของน้ำมันเบรกตามอุณหภูมิจุดเดือด 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ 

  • จุดเดือดแห้ง ปราศจากความชื้น (Dry Boiling Point) สำหรับน้ำมันเบรกที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน 
  • จุดเดือดเปียก มีความชื้นอยู่ในน้ำมัน (Wet Boiling Point) น้ำมันเบรกที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว มีการรดูดซับความชื้นไปแล้ว มี Dot 2 , Dot 3 , Dot 4 , Dot 5 และ Dot 5.1 

น้ำมันเบรค Dot3 กับ Dot4 ต่างกันอย่างไร

น้ำมันเบรก Dot 3 มีจุดเดือดแห้ง 205 องศาเซลเซียส และ จุดเดือดเปียก 140 องศาเซลเซียส ในขณะที่ น้ำมันเบรก Dot 4 มีจุดเดือดแห้ง 230 องศาเซลเซียส และ จุดเดือดเปียก 155 องศาเซลเซียส ซึ่ง Dot ยิ่งมาก ยิ่งทนความร้อนได้สูง ซึ่งรถสมัยใหม่สามารถใช้แทนกันได้ เพราะเป็นเบสเดียวกัน แต่ในกรณีที่มีระบุในคู่มือรถว่าจะต้องใช้ Dot … เท่านั้น เนื่องจากหากนำน้ำมันเบรกที่ต่าง Dot ต่างยี่ห้อกัน มาผสมกัน อาจทำให้คุณสมบัติการทนความร้อนแย่ลง หรือทำให้ประสิทธิภาพน้ำมันเบรกลดลงนั่นเอง 

น้ำมันเบรค Dot 3 กับ Dot 4 ผสมกันได้ไหม หรือใช้น้ำมันเบรค Dot 4 แทน Dot ได้หรือไม่ 

ไม่ควรผสมน้ำมันเบรก Dot 3 กับ Dot 4 เข้าด้วยกัน เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี ที่อาจส่งผลให้น้ำมันเบรกเสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้ระบบเบรกทำงานไม่เสถียร หรือทำให้ชิ้นส่วนของลูกยางเบรกบวมหรือมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ 

เมื่อไรที่ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรก 

  • เบรกยากขึ้น 
  • เหยียบเบรกแล้วมีเสียงดังคล้ายโลหะเสียดสีกัน 
  • จานเบรกมีรอยแตก หัก ชำรุด 
  • น้ำมันเบรกมีสีคล้ำขึ้น หรือสีเปลี่ยนไปจากเดิม 

ควรเช็คระดับน้ำมันเบรกทุก 3 – 5 วัน หรือ สัปดาห์ละครั้ง เพราะทุกครั้งที่มีการใช้งานรถยนต์ และยิ่งมีการใช้เบรกมากเท่าไร น้ำมันเบรกจะยิ่งลดลง ดังนั้นไม่ควรมองข้าม และคอยเติมน้ำมันเบรกอยู่เสมอ หากพบว่าน้ำมันเบรกพร่องลงไปถึงขีด MIN และไม่ควรเติมเกินขีด MAX เพราะจะทำให้น้ำมันเบรกหกเลอะเทอะจนสร้างความเสียหายแก่เครื่องยนต์และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ 

อย่างไรก็ตามหากไม่มีความชำนาญ หรือไม่มั่นใจในการเลือกซื้อประเภทน้ำมันเบรกยี่ห้อไหนดี หรือได้เวลาที่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกหรือยัง การเลือกใช้ศูนย์บริการก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะทางศูนย์ ฯ จะให้บริการตรวจสอบสภาพรถและระบบเครื่องยนต์ต่าง ๆ ให้ครบ ตั้งแต่ช่วงบนไปจนถึงช่วงล่างรถ ทั้งการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เช็คไดชาร์จ หม้อน้ำ ระบบเบรก หรือยางล้อรถ เรียกได้ว่าดูแลให้ครบ 

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งที่ใช้รถ ไม่ควรมองข้าม น้ำมันเบรก หมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ เพราะถ้าเมื่อไรเบรกมีปัญหา ความเสียหายที่ตามมาอาจมากกว่าที่คิด 

Related posts
สูตรอาหารความรู้สุขภาพไลฟ์สไตล์

กินไข่ลวกตอนเช้าดีไหม ไข่ลวกมีประโยชน์อย่างไร พร้อมบอกวิธีทำไข่ลวก

ช่วงเวลาเร่งรีบในตอนเช้า ๆ…
Read more
ความรู้ข่าวสุขภาพอื่นๆเครื่องมือไลฟ์สไตล์

เบรกแล้วสั่นเกิดจากอะไร ทำยังไงให้พวงมาลัยหายสั่น

การขับขี่รถบนท้องถนนต้องใช้ความระมัดระวัง…
Read more
ความรู้สุขภาพเครื่องมือแฟชั่นไลฟ์สไตล์

เลือกโฟมล้างหน้าอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา

“โฟมล้างหน้า” คือ…
Read more
Newsletter
Become a Trendsetter
Sign up for Davenport’s Daily Digest and get the best of Davenport, tailored for you.